Category

โดเมนคืออะไร โดนเมนทั้ง 2 ประเภท

การเลือกโดเมนที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของเว็บไซต์ เป้าหมายของเว็บไซต์ งบประมาณในการจดโดเมน

Dec 15, 2023

โดเมนคืออะไร​

Domain nam หรือ โดเมนคือชื่อของเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ

  • ชื่อโดเมนหลัก (Domain name) เป็นส่วนที่อยู่ทางซ้ายของเครื่องหมายอัญประกาศ (เช่น www.dmit.co.th) ส่วนใหญ่เป็นชื่อของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ

  • ส่วนต่อท้าย (Top-level domain หรือ TLD) เป็นส่วนที่อยู่ทางขวาของเครื่องหมายอัญประกาศ (เช่น co.th) บ่งบอกถึงประเภทของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ

โดเมนมีความสำคัญต่อเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำและเรียกดูเว็บไซต์หรือบริการเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องจำที่อยู่ IP ที่เป็นตัวเลข

ประเภทของ Domain Name​

ประเภทของ Domain Name แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1. โดเมน 2 ระดับ (Second-level domain)

โดเมน 2 ระดับ ประกอบด้วยส่วนต่อท้ายเพียง 1 ส่วน บ่งบอกถึงประเภทของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ ตัวอย่างโดเมน 2 ระดับ เช่น

  • .com : ธุรกิจทั่วไป

  • .org : องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

  • .net : เครือข่าย

  • .edu : สถาบันการศึกษา

  • .gov : รัฐบาล

2. โดเมน 3 ระดับ (Third-level domain)

โดเมน 3 ระดับ ประกอบด้วยส่วนต่อท้าย 2 ส่วน บ่งบอกถึงประเภทของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ และชื่อโดเมนหลัก ตัวอย่างโดเมน 3 ระดับ เช่น

  • www.dmit.co.th : เว็บไซต์ของสถาบันเทคโนโลยีมทร.ตะวันออก

  • www.matichon.co.th : เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์มติชน

นอกจากนี้ ยังมีประเภทของ Domain Name อื่นๆ อีกมากมาย เช่น

  • Generic Top-Level Domains (gTLD) เป็นโดเมนที่ใช้กันทั่วไป เช่น .com, .org, .net, .edu, .gov, .info, .biz, .cc, .tv, .me

  • Country Code Top-Level Domains (ccTLD) เป็นโดเมนที่บ่งบอกถึงประเทศหรือภูมิภาค เช่น .th, .us, .uk, .jp, .cn

  • Internationalized Domain Names (IDN) เป็นโดเมนที่สามารถรองรับอักขระภาษาต่างๆ นอกเหนือจากอักขระภาษาอังกฤษ เช่น .ไทย

การเลือกประเภทของ Domain Name ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ เป้าหมายของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ งบประมาณในการจดโดเมน เป็นต้น

การจดทะเบียนโดเมนต้องทำอย่างไร​

การจดทะเบียนโดเมนสามารถทำได้โดยบริษัทผู้ให้บริการจดโดเมนต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการจดโดเมนจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาในการจดโดเมนและประเภทของโดเมน

ขั้นตอนในการจดทะเบียนโดเมนมีดังนี้

  1. เลือกบริษัทผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมน

  2. เลือกประเภทของโดเมนที่ต้องการจดทะเบียนโดเมน

  3. เลือกชื่อโดเมนที่ต้องการจดทะเบียนโดเมนโดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อโดเมนนั้นยังไม่ถูกจดทะเบียนโดยผู้อื่น

  4. กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการติดต่อ

  5. ชำระเงินค่าจดทะเบียนโดเมน

  6. รอรับอีเมลยืนยันการจดทะเบียนโดเมน

เมื่อจดทะเบียนโดเมนเรียบร้อยแล้ว เจ้าของโดเมนจะได้รับเอกสารยืนยันการจดทะเบียนโดเมน ซึ่งประกอบด้วยชื่อโดเมน ประเภทของโดเมน ระยะเวลาในการจดทะเบียนโดเมน และข้อมูลผู้จดทะเบียนโดเมน

เอกสารยืนยันการจดทะเบียนโดเมนมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นหลักฐานแสดงถึงสิทธิในการใช้ชื่อโดเมน เจ้าของโดเมนควรเก็บเอกสารยืนยันการจดทะเบียนโดเมนไว้อย่างดี

นอกจากนี้ เจ้าของโดเมนยังจำเป็นต้องดำเนินการต่ออายุการจดทะเบียนโดเมนทุกปี เพื่อให้สามารถใช้งานชื่อโดเมนต่อไปได้

การต่ออายุการจดทะเบียนโดเมนสามารถทำได้โดยติดต่อบริษัทผู้ให้บริการจดโดเมน โดยโดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุการจดทะเบียนโดเมนจะน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโดเมนครั้งแรก

stay in the loop

Subscribe for our latest update.