แอปพลิเคชั่น คืออะไร​

แอปพลิเคชั่น (Application) หรือ "แอพ" ซึ่งใช้ในบริบทของเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่ออ้างถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมแบบพกพาที่ออกแบบมาเพื่อให้บริการหรือช่วยงานทางแบบเฉพาะเรื่องต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำงานบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่น

แอปพลิเคชันสามารถมีหลายประเภทและใช้งานในความหลากหลายรูปแบบ เช่น แอปพลิเคชันสำหรับสื่อบันเทิง เช่น แอปพลิเคชั่นดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แอปพลิเคชันสำหรับการสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชั่นแชทหรือโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันทางธุรกิจ เช่น แอปพลิเคชันการจัดการโครงการหรือการทำงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ประเภทของแอปพลิเคชั่น

แอพพลิเคชั่นสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ลักษณะการใช้งาน และแพลตฟอร์มที่ใช้ ดังนี้

ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

• แอพพลิเคชั่นสำหรับผู้บริโภค (Consumer applications) เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป โดยผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้งานได้ เช่น แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันเกม แอปพลิเคชันด้านความบันเทิง แอปพลิเคชันด้านการเงิน เป็นต้น

• แอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจ (Business applications) เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในองค์กรหรือธุรกิจ เช่น แอปพลิเคชันการจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) แอปพลิเคชันการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) แอปพลิเคชันการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น

• แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เฉพาะ (Specialized applications) เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะด้าน เช่น แอปพลิเคชันทางการแพทย์ แอปพลิเคชันการศึกษา แอปพลิเคชันด้านอุตสาหกรรม เป็นต้น

ตามลักษณะการใช้งาน

• แอปพลิเคชันบนเว็บ (Web application) เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ตัวอย่างของแอปพลิเคชันบนเว็บ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ข่าว เป็นต้น

• แอปพลิเคชันมือถือ (Mobile application) เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น ตัวอย่างของแอปพลิเคชันมือถือ เช่น แอปพลิเคชันแผนที่ แอปพลิเคชันการขนส่ง แอปพลิเคชันการชำระเงิน เป็นต้น

• แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable application) เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์สวมใส่ เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ แว่นตาอัจฉริยะ เป็นต้น ตัวอย่างของแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แอปพลิเคชันติดตามการออกกำลังกาย แอปพลิเคชันแจ้งเตือนข้อความ เป็นต้น

• แอปพลิเคชันบนคลาวด์ (Cloud application) เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่บนคลาวด์ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตัวอย่างของแอปพลิเคชันบนคลาวด์ เช่น แอปพลิเคชันสำนักงานออนไลน์ แอปพลิเคชันการจัดการโครงการ เป็นต้น

• แอปพลิเคชันแบบไฮบริด (Hybrid application) เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานได้ทั้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์ โดยแอปพลิเคชันจะดาวน์โหลดส่วนหนึ่งมาติดตั้งบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ส่วนที่เหลือจะทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ ตัวอย่างของแอปพลิเคชันแบบไฮบริด เช่น แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

ตามแพลตฟอร์มที่ใช้

• แอปพลิเคชันสำหรับ Android เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบปฏิบัติการ Android โดยสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์พกพาที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น

• แอปพลิเคชันสำหรับ iOS เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS โดยสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์พกพาที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS เช่น iPhone iPad เป็นต้น

• แอปพลิเคชันสำหรับ Windows Phone เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows Phone โดยสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์พกพาที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone เป็นต้น

• แอปพลิเคชันสำหรับ macOS เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบปฏิบัติการ macOS โดยสามารถใช้ได้บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ macOS เป็นต้น

• แอปพลิเคชันสำหรับ Linux เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบปฏิบัติการ Linux โดยสามารถใช้ได้บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Linux เป็นต้น

นอกจากนี้ แอปพลิเคชั่นยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทอื่นๆ ได้ตามลักษณะเฉพาะ เช่น แอปพลิเคชันเกม แอปพลิเคชันการศึกษา แอปพลิเคชันการแพทย์ เป็นต้น

ประโยชน์ของการช้งานแอปพลิเคชัน​

แอปพลิเคชั่นมีประโยชน์มากมายทั้งต่อบุคคลทั่วไปและธุรกิจ ดังนี้

ประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไป

• เพิ่มความสะดวกสบายและประหยัดเวลา แอปพลิเคชั่นช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เช่น แอปพลิเคชันแผนที่ แอปพลิเคชันขนส่ง แอปพลิเคชันการชำระเงิน เป็นต้น

• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แอปพลิเคชั่นช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชันสำนักงาน แอปพลิเคชันการจัดการโครงการ เป็นต้น

• ให้ความบันเทิง แอปพลิเคชั่นช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถผ่อนคลายและสนุกสนาน เช่น แอปพลิเคชันเกม แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

• ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชั่นช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น แอปพลิเคชันข่าว แอปพลิเคชันสภาพอากาศ เป็นต้น

ประโยชน์ต่อธุรกิจ

• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แอปพลิเคชั่นช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชันการจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) แอปพลิเคชันการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เป็นต้น

• เพิ่มยอดขาย แอปพลิเคชั่นช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้ เช่น แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ แอปพลิเคชันการตลาด เป็นต้น

• สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า แอปพลิเคชั่นช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น เช่น แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันสมาชิก เป็นต้น

• เพิ่มความปลอดภัย แอปพลิเคชั่นช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ เช่น แอปพลิเคชันรักษาความปลอดภัย แอปพลิเคชันการจัดการข้อมูล เป็นต้น

นอกจากนี้ แอปพลิเคชั่นยังสามารถนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น การศึกษา การแพทย์ การขนส่ง เป็นต้น