Usability คืออะไร​

Usability คือคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายและความง่ายต่อการใช้งานของผู้ใช้ในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นเว็บไซต์ เว็บแอพพลิเคชั่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือสินค้าอื่น ๆ การออกแบบด้านการใช้งานให้มีความสะดวกสบายและง่ายต่อการเข้าใช้งานเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความสำเร็จในตลาด ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการใช้งานได้แก่การเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว ความเข้าใจง่ายในการใช้งาน การป้องกันข้อผิดพลาด และการให้คำแนะนำหรือคำชี้แจงที่ชัดเจนต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและพึงพอใจมากที่สุดที่เป็นไปได้

องค์ประกอบหลักของ Usability ประกอบด้วยอะไรบ้าง​

องค์ประกอบหลักของ Usability ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้:

1. ประสิทธิภาพ (Efficiency)

• หมายถึง ผู้ใช้สามารถทำงานให้เสร็จได้รวดเร็วแค่ไหน

• วัดจาก ระยะเวลาที่ใช้ในการทำงานให้เสร็จ จำนวนขั้นตอนที่ใช้

• ตัวอย่าง: เว็บไซต์ที่มีการโหลดหน้าเว็บที่รวดเร็ว แอปพลิเคชั่นที่มีการสั่งงานด้วยเสียง

2. ประสิทธิผล (Effectiveness)

• หมายถึง ผู้ใช้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ครบถ้วนหรือไม่

• วัดจาก อัตราความสำเร็จในการทำงาน เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่บรรลุเป้าหมาย

• ตัวอย่าง: เว็บไซต์ที่มีข้อมูลครบถ้วน แอปพลิเคชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

3. ความพึงพอใจ (Satisfaction)

• หมายถึง ผู้ใช้รู้สึกอย่างไรกับการใช้งานระบบหรือผลิตภัณฑ์

• วัดจาก ระดับความพึงพอใจ ความรู้สึกสนุกสนาน ความน่าสนใจ

• ตัวอย่าง: เว็บไซต์ที่มีการออกแบบที่สวยงาม แอปพลิเคชั่นที่มีการใช้งานที่ง่าย

ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้มีความสัมพันธ์กัน ผู้ใช้จะรู้สึกพึงพอใจกับการใช้งานระบบหรือผลิตภัณฑ์ ก็ต่อเมื่อสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายได้

การทำ Usability Testing คืออะไร​

Usability Testing หรือ การทดสอบการใช้งาน เป็นวิธีการวัดและประเมิน Usability ของระบบหรือผลิตภัณฑ์ โดยให้ผู้ใช้จริงลองใช้งานระบบหรือผลิตภัณฑ์ และพบว่าพวกเขาใช้งานอย่างไร พบปัญหาอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์ของ Usability Testing :

• ระบุปัญหาการใช้งานของระบบหรือผลิตภัณฑ์

• หาโอกาสในการปรับปรุงหรือพัฒนา

• เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้

วิธีการทดสอบ Usability Testing :

1. กำหนดเป้าหมาย: ระบุกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ และกำหนดสิ่งที่ต้องการทดสอบ

2. เตรียมการทดสอบ: ออกแบบสถานการณ์จำลอง เตรียมอุปกรณ์ บทสัมภาษณ์

3. คัดเลือกผู้เข้าร่วม: เลือกผู้ใช้จริงที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

4. ดำเนินการทดสอบ: ให้ผู้ใช้ลองใช้งานระบบหรือผลิตภัณฑ์ และบันทึกข้อมูล

5. วิเคราะห์ผล: วิเคราะห์ข้อมูล ระบุปัญหา หาโอกาสในการปรับปรุง

6. รายงานผล: จัดทำรายงานสรุปผล นำเสนอต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ประเภทของ Usability Testing:

• การทดสอบการใช้งานแบบคิดดังๆ (Think Aloud Testing): ให้ผู้ใช้พูดคิดอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในใจขณะใช้งาน

• การทดสอบการใช้งานแบบสังเกต (Observational Testing): สังเกตผู้ใช้ while ใช้งาน โดยไม่ต้องพูดคุย

• การทดสอบการใช้งานแบบสัมภาษณ์ (Interview Testing): สัมภาษณ์ผู้ใช้หลังการใช้งาน ถามถึงประสบการณ์ ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ

เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ Usability Testing:

• อุปกรณ์บันทึกวิดีโอ: บันทึกการใช้งานของผู้ใช้

• ซอฟต์แวร์ติดตามการใช้งาน: บันทึกข้อมูลการใช้งาน เช่น การคลิกเมาส์ การเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์

• แบบสอบถาม: เก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้ใช้

Usability Testing เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัดและประเมิน Usability ของระบบหรือผลิตภัณฑ์ ช่วยให้นักออกแบบและนักพัฒนาสามารถระบุปัญหา หาโอกาสในการปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

ตัวอย่างของ Usability Testing:

• ทดสอบการใช้งานเว็บไซต์ โดยให้ผู้ใช้ลองค้นหาข้อมูล

• ทดสอบการใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยให้ผู้ใช้ลองทำธุรกรรมต่างๆ

• ทดสอบการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยให้ผู้ใช้ลองใช้งานตามคู่มือ

Usability Testing เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้นักออกแบบและนักพัฒนาสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไป