Category
5 ตัวอย่างที่ Generative AI ทำได้ ไปดูกัน
มาทำความรู้จักกับ Generative AI เทคโนโลยีสุดล้ำที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการ AI ไปตลอดกาล และมาดูกันว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง
30 ส.ค. 2567
Generative AI คืออะไร? มาดูกันว่ามันทำอะไรได้บ้าง!
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเข้ามาของ Generative AI ได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างมากในหลายวงการ ผมเชื่อว่าเมื่อพูดถึงคำว่า AI คุณอาจคุ้นเคยกับภาพของหุ่นยนต์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอัตโนมัติ แต่ Generative AI เป็นสิ่งที่เหนือกว่านั้น
Generative AI คือรูปแบบของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องมีข้อมูลต้นแบบทั้งหมดก่อน พูดง่ายๆ คือมันสามารถสร้างเนื้อหา ภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งโค้ดที่ไม่เคยมีมาก่อน มันถูกพัฒนาให้เลียนแบบการสร้างสรรค์เชิงศิลปะและการออกแบบของมนุษย์ นั่นหมายความว่า พวกเราสามารถสร้างอะไรที่แปลกใหม่ได้ง่ายขึ้น
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักออกแบบ หรือโปรแกรมเมอร์ การรู้จักและเข้าใจ Generative AI เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะมันจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในงานของคุณ และในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปสำรวจว่า Generative AI คืออะไร และมันสามารถทำอะไรได้บ้าง
ทำความรู้จักกับ Generative AI
Generative AI เป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีอยู่จริง มันไม่ได้เพียงแค่รับคำสั่งและทำตาม แต่ยังสามารถสร้างสรรค์งานออกมาได้เองจากข้อมูลที่มีการเรียนรู้ เช่น การสร้างภาพจากคำบรรยาย หรือการเขียนบทความจากหัวข้อที่กำหนด
สิ่งที่ทำให้ Generative AI โดดเด่นคือการที่มันสามารถสร้างข้อมูลใหม่ที่มีคุณภาพสูงคล้ายกับที่มนุษย์สร้างได้ ยกตัวอย่างเช่น การวาดภาพที่สวยงาม การแต่งเพลง หรือแม้แต่การเขียนบทความ นี่เป็นความก้าวหน้าที่ทำให้เราเห็นถึงพลังของการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด

Generative AI ทำอะไรได้บ้าง
Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ข้อมูลใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นที่ทำให้มันมีบทบาทอย่างมากในหลากหลายวงการ ทั้งการออกแบบ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ต่อไปนี้คือ 5 ตัวอย่างการทำงานของ Generative AI ที่ทำให้เห็นถึงพลังและความสามารถของเทคโนโลยีนี้อย่างชัดเจน
การสร้างภาพจากคำบรรยาย
หนึ่งในความสามารถที่น่าทึ่งของ Generative AI คือการสร้างภาพจากคำอธิบาย เช่น หากคุณป้อนข้อความว่า "บ้านสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ริมทะเลในช่วงพระอาทิตย์ตก" ระบบ AI จะสามารถสร้างภาพของบ้านตามคำบรรยายได้อย่างสมจริง โดยการใช้แบบจำลองของ AI ที่เรียนรู้จากภาพถ่ายและข้อมูลที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม DALL-E ที่สามารถสร้างภาพจากข้อความได้แบบสมบูรณ์และมีรายละเอียดชัดเจน ทำให้การสร้างงานศิลปะหรือการออกแบบกราฟิกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับพวกเรา
การเขียนบทความหรือเนื้อหาเขียนอื่นๆ
Generative AI ยังมีความสามารถในการเขียนบทความที่มีความซับซ้อน หรือแม้แต่การเขียนเนื้อหาที่คล้ายกับการเขียนของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ ระบบ AI อย่างเช่น GPT-3 หรือ GPT-4 (ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังของโปรแกรมนี้) ถูกพัฒนาให้สามารถสร้างเนื้อหาจากหัวข้อหรือคำถามที่ให้ไว้ เช่น หากคุณต้องการให้ AI ช่วยเขียนบทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ มันจะสามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และสังเคราะห์ออกมาเป็นบทความที่สมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องมีการแก้ไขมาก
การแต่งเพลงและการสร้างเสียง
วงการดนตรีเองก็ได้รับผลกระทบจาก Generative AI อย่างชัดเจน นักดนตรีและโปรดิวเซอร์สามารถใช้ AI เพื่อช่วยแต่งเพลงหรือสร้างทำนองที่มีความซับซ้อนได้ง่ายขึ้น AI สามารถสร้างเพลงใหม่ๆ จากสไตล์หรือโทนที่ผู้ใช้กำหนด หรือช่วยปรับปรุงเพลงที่มีอยู่แล้ว ตัวอย่างที่น่าสนใจคือการใช้ Generative AI ในการสร้างเสียงประกอบหรือเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตรงกับบรรยากาศและอารมณ์ของฉากได้อย่างลงตัว
การออกแบบ 3D และการสร้างโมเดล
ในวงการออกแบบผลิตภัณฑ์และการสร้างโมเดล 3 มิติ Generative AI มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดระยะเวลาและความซับซ้อนในการสร้างโมเดล ตัวอย่างเช่น การออกแบบรถยนต์ที่ซับซ้อน AI สามารถสร้างโมเดล 3 มิติของรถยนต์ที่มีความละเอียดสูงโดยอิงจากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับ ทำให้กระบวนการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่ใช้ Generative AI ในการออกแบบบ้าน อาคาร หรือแม้แต่การสร้างแบบจำลองในเกมคอมพิวเตอร์
การสร้างโค้ดโปรแกรม
หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าประทับใจคือความสามารถของ Generative AI ในการช่วยเขียนโค้ดโปรแกรม AI สามารถทำงานร่วมกับนักพัฒนาในการเขียนโปรแกรมหรือแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น AI สามารถสร้างโค้ดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ หรือช่วยแก้ไขบั๊กในซอฟต์แวร์ได้ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทำให้นักพัฒนาสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น GitHub Copilot ที่ใช้ AI ในการเสนอแนะโค้ดหรือเขียนโค้ดที่ซับซ้อนให้กับนักพัฒนาได้

Generative AI แตกต่าง เหนือกว่า AI ทั่วไปยังไง?
Generative AI นั้นก้าวไปไกลกว่านั้น มันไม่เพียงแค่ทำงานตามคำสั่ง แต่ยังสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน นี่คือความแตกต่างและข้อได้เปรียบของ Generative AI เมื่อเปรียบเทียบกับ AI ทั่วไป
ความสามารถในการสร้างเนื้อหาใหม่
AI ทั่วไปถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูลและทำงานตามคำสั่ง แต่ Generative AI มีความสามารถในการสร้างข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การสร้างภาพ การเขียนบทความ หรือแม้แต่การสร้างเพลง ทำให้มันมีความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ที่คล้ายกับมนุษย์มากขึ้น
ความคิดสร้างสรรค์ที่เหนือกว่า
ในขณะที่ AI ทั่วไปมักทำงานตามรูปแบบหรือข้อมูลที่มีอยู่แล้ว Generative AI มีความสามารถในการคิดและสร้างสรรค์ข้อมูลใหม่อย่างอิสระ โดยอาศัยการเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับ ทำให้มันสามารถสร้างผลงานที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากการทำงานที่จำกัดของ AI ปกติ
การเลียนแบบการทำงานของมนุษย์
Generative AI ถูกออกแบบมาให้ทำงานที่ซับซ้อนและคล้ายคลึงกับงานของมนุษย์มากขึ้น เช่น การวาดภาพที่สวยงาม การแต่งเพลง หรือการสร้างเนื้อหาที่ดูเป็นธรรมชาติ ต่างจาก AI ทั่วไปที่มักจะทำงานในรูปแบบที่เป็นระบบและเป็นขั้นตอนมากกว่า
การปรับตัวตามข้อมูลใหม่ได้ดีกว่า
Generative AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ในขณะที่ AI ทั่วไปมักจะต้องถูกปรับปรุงหรือป้อนข้อมูลใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถทำงานในสถานการณ์ใหม่ๆ ได้
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
Generative AI สามารถทำงานได้หลายประเภท เช่น การสร้างภาพ การเขียนบทความ การสร้างดนตรี หรือการออกแบบโมเดล 3D ซึ่ง AI ทั่วไปอาจจะถูกจำกัดให้ทำงานเฉพาะด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลหรืองานที่มีขั้นตอนตายตัว นี่ทำให้ Generative AI เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายมากขึ้น
ด้วยข้อแตกต่างเหล่านี้ ทำให้ Generative AI กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงและยกระดับการทำงานในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบ ศิลปะ หรือการพัฒนาเทคโนโลยี
จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้พูดถึง Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่มีความสามารถพิเศษในการสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาพ บทความ เพลง หรือแม้กระทั่งโค้ดโปรแกรม มันมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวตามข้อมูลใหม่ๆ ได้อย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นในวงการศิลปะ การออกแบบ หรือนักพัฒนาโปรแกรม Generative AI จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยให้พวกเราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับการทำงานของเราให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น การที่มันสามารถสร้างเนื้อหาที่ซับซ้อนได้โดยอิงจากข้อมูลเล็กน้อยทำให้มันเหนือกว่าปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปในหลายด้าน
ดังนั้น หากคุณยังไม่ได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับ Generative AI ผมแนะนำว่าคุณควรเริ่มต้นตอนนี้ เพราะมันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของเรา
Latest articles
stay in the loop