Category

Developer นักพัฒนาเว็บไซต์ คือ อะไร 6 หน้าที่ของ Developer

Software developer มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ต้องเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับประเภทของซอฟต์แวร์ที่ต้องการพัฒนา

28 ส.ค. 2566

Developer คือ อะไร​

Developer หรือ นักพัฒนาเว็บไซต์ คือ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหน้าตาหรืออินเทอร์เฟซที่เราเห็นบนอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ พวกเขาใช้ภาษาโปรแกรมและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ ของเว็บไซต์ เช่น รูปภาพ ตาราง แบบฟอร์ม และฟังก์ชันต่าง ๆ

Developer สามารถทำงานทั้งด้านหน้าเว็บ (Front-End) และด้านหลังเว็บ (Back-End) ด้านหน้าเว็บเกี่ยวข้องกับส่วนที่ผู้ใช้งานสามารถเห็นและมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งอาจเป็นการออกแบบหน้าตาของเว็บไซต์ การเขียนรหัส HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อสร้างส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ในขณะที่ด้านหลังเว็บเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล การประมวลผลและการทำงานที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง เช่น การเชื่อมต่อฐานข้อมูล การจัดการการลogin และการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Software Developer หรือ นักพัฒนาเว็บไซต์​

Software Developer หรือ นักพัฒนาเว็บไซต์มักจะมีความรู้และทักษะในภาษาโปรแกรมต่าง ๆ เช่น HTML, CSS, JavaScript, PHP, Python, Ruby, Java และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ พวกเขายังต้องเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบของเว็บไซต์ เรื่องราวของผู้ใช้งาน และความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการพัฒนาเว็บไซต์ด้วย

ด้วยความสำคัญของเว็บไซต์ในยุคดิจิทัล Software Developer จึงเป็นบุคคลที่สำคัญในการช่วยให้ธุรกิจ องค์กร และบุคคลทั่วไปสามารถมีการเข้าถึงและใช้งานเนื้อหาและบริการต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายมากขึ้น

หน้าที่ของ Developer มีอะไรบ้าง?​

นักพัฒนาเว็บไซต์มีหน้าที่หลากหลายเนื่องจากการทำงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  1. การออกแบบและพัฒนาหน้าตาของเว็บไซต์ (Front-End Development)

    • เขียนรหัส HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อสร้างหน้าตาและโครงสร้างของเว็บไซต์

    • สร้างและจัดการกับองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ ตาราง และวิดีโอ

    • ทำให้เว็บไซต์มีการตอบสนองกับหน้าจอของอุปกรณ์ต่าง ๆ (Responsive Design)

    • สร้างและจัดการแอนิเมชันและการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ใช้งาน

  2. การจัดการด้านข้างหลังของเว็บไซต์ (Back-End Development)

    • พัฒนาเซิร์ฟเวอร์และฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์

    • จัดการการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล เพื่อเก็บและดึงข้อมูล

    • การเขียนรหัสเพื่อประมวลผลข้อมูลและการทำงานที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง

    • การจัดการความปลอดภัยและการรับรองตัวตนของผู้ใช้งาน

  3. การทดสอบและการปรับแก้ไข (Testing and Debugging)

    • ทดสอบการทำงานของเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและประสิทธิภาพ

    • แก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาที่เกิดขึ้นในการทดสอบ

    • ดำเนินการทดสอบการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกับอุปกรณ์และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ

  4. การจัดการเวอร์ชันและการทำงานร่วมกับทีม (Version Control and Collaboration)

    • ใช้ระบบควบคุมเวอร์ชันเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงในรหัสของเว็บไซต์

    • การทำงานร่วมกับทีมผู้พัฒนาเพื่อแบ่งหน้าที่และการทำงานร่วมกัน

  5. การปรับปรุงและการพัฒนาต่อเนื่อง (Maintenance and Continuous Development)

    • ดูแลรักษาเว็บไซต์เพื่อให้มีประสิทธิภาพและความเสถียร

    • พัฒนาฟีเจอร์ใหม่และปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ

  6. การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Client Interaction)

    • ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเข้าใจความต้องการและความสามารถของเว็บไซต์ที่ต้องการพัฒนา

    • ให้คำแนะนำและแนวทางในการดำเนินการพัฒนา

การพัฒนาเว็บไซต์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและรวดเร็วเปลี่ยนไปตามความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้งาน นักพัฒนาเว็บไซต์จึงต้องเป็นผู้ที่มีความคล่องแคล่วและรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ประเภทของ Developer มีอะไรบ้าง​

Developer มีหลายประเภท ตามบทบาทและความเชี่ยวชาญของพวกเขาในการทำงาน นี่คือบางประเภทที่พบได้

  1. Front-End Developer (นักพัฒนาด้านหน้าเว็บ)

    • พัฒนาและออกแบบส่วนต่าง ๆ ของหน้าตาของเว็บไซต์

    • เขียนรหัส HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อสร้างและปรับปรุงประสิทธิภาพของอินเทอร์เฟซผู้ใช้งาน

  2. Back-End Developer (นักพัฒนาด้านหลังเว็บ)

    • พัฒนาและบริหารจัดการฐานข้อมูลและซิสเต็มเวอร์

    • เขียนรหัสที่ทำงานเบื้องหลังเพื่อการประมวลผลข้อมูลและการทำงานต่าง ๆ

  3. Full-Stack Developer (นักพัฒนาทุกด้าน)

    • มีความเชี่ยวชาญทั้งในการพัฒนาด้านหน้าและด้านหลังของเว็บไซต์

    • สามารถทำงานกับทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้และส่วนการจัดการฐานข้อมูล

  4. Mobile App Developer (นักพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ)

    • พัฒนาและสร้างแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

  5. Game Developer (นักพัฒนาเกม)

    • พัฒนาและสร้างเกมคอมพิวเตอร์และเกมบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ

  6. DevOps Engineer (นักพัฒนาและดูแลระบบด้วยกัน)

    • ร่วมกันพัฒนาและดูแลระบบอย่างต่อเนื่อง (Continuous Integration/Continuous Deployment)

    • ปรับปรุงและติดตามการดำเนินงานและประสิทธิภาพของระบบ

  7. Data Scientist (นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล)

    • ใช้ความรู้ด้านวิทยาการข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และออกแบบการเข้าถึงข้อมูล

  8. Machine Learning Engineer (นักพัฒนาแมชีนเลิร์นิง)

    • พัฒนาและออกแบบระบบแมชีนเลิร์นิงที่สามารถเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลได้

  9. Software Engineer (นักพัฒนาซอฟต์แวร์):

    • พัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วไปและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไม่จำกัดเฉพาะเว็บหรือแอปพลิเคชันมือถือ

  10. Embedded Systems Developer (นักพัฒนาระบบฝังตัว)

  • พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับระบบฝังตัวในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน หรืออุปกรณ์แมชีน

  1. Blockchain Developer (นักพัฒนาบล็อกเชน)

  • พัฒนาแอปพลิเคชันและสมาร์ทคอนแทรคที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

  1. UI/UX Designer (นักออกแบบอินเตอร์เฟซผู้ใช้)

  • ออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้และส่วนติดต่อของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

แต่ละประเภทของนักพัฒนามีบทบาทที่แตกต่างกันในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พวกเขาใช้ในการทำงาน

stay in the loop

Subscribe for our latest update.