Category

ทำความรู้จักกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เครื่องมือเปลี่ยนโลก

สนใจ ซอฟต์แวร์ ที่คุณสามารถปรับแต่งได้เองตามใจชอบ? โอเพนซอร์ส คือคำตอบ! มาเรียนรู้เกี่ยวกับ ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส และข้อดีที่คุณจะได้รับ

16 ส.ค. 2567

โอเพนซอร์ส: โลกแห่งซอฟต์แวร์เสรีที่คุณควรรู้จัก

เมื่อพูดถึงซอฟต์แวร์ในโลกของไอที ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกถึงโปรแกรมต่างๆ ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์การทำงาน ซอฟต์แวร์สื่อสาร หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ความบันเทิง แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า "ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส" หรือ open-source software นั้นมีความหมายอย่างไร?

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส หรือที่เรามักเรียกกันว่า โอเพนซอร์ส เป็นประเภทของซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากซอฟต์แวร์ทั่วไปอย่างมาก มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือในการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งปัน การพัฒนาร่วมกัน และการเข้าถึงโดยเสรี ทำให้มันกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มนักพัฒนาทั่วโลก

ในบทความนี้ ผมจะพาคุณไปรู้จักกับความหมายและคุณสมบัติของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สว่ามันต่างจากซอฟต์แวร์ประเภทอื่นอย่างไร และทำไมถึงมีบทบาทสำคัญในโลกเทคโนโลยีปัจจุบัน


ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สคืออะไร

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (Open Source Software) คือซอฟต์แวร์ที่เปิดเผยซอร์สโค้ด (Source Code) ให้กับผู้ใช้งานและนักพัฒนาทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซอร์สโค้ดเป็นชุดของคำสั่งที่โปรแกรมเมอร์เขียนขึ้นเพื่อควบคุมการทำงานของซอฟต์แวร์ ซึ่งในกรณีของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส คุณสามารถดู แก้ไข ปรับปรุง และแจกจ่ายซอร์สโค้ดนี้ให้ผู้อื่นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือต้องขออนุญาตจากผู้พัฒนา

ลักษณะนี้ทำให้ ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เป็นเครื่องมือที่สำคัญในชุมชนนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วโลก เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาซอฟต์แวร์นั้นๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การแก้ไขข้อผิดพลาดหรือบั๊กในซอฟต์แวร์ทำได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากมีนักพัฒนาจำนวนมากที่สามารถเข้าถึงและแก้ไขซอร์สโค้ดได้พร้อมกัน


อะไรคือคุณสมบัติของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (Open Source Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวหลายประการที่ทำให้แตกต่างจากซอฟต์แวร์ที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท (Proprietary Software) ต่อไปนี้คือคุณสมบัติหลักๆ ของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส


  1. การเข้าถึงซอร์สโค้ด (Source Code Accessibility)

    ผู้ใช้สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดของซอฟต์แวร์ได้อย่างเสรี นั่นหมายความว่าทุกคนสามารถตรวจสอบ แก้ไข และปรับปรุงโค้ดได้ตามต้องการ ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


  2. การแจกจ่ายอย่างเสรี (Free Distribution)

    ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สสามารถแจกจ่ายได้อย่างเสรี โดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนหรือผู้รับ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถแจกจ่ายซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่ตนเองแก้ไขได้โดยไม่มีข้อจำกัดอีกด้วย


  3. การพัฒนาโดยชุมชน (Community-Driven Development)

    ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมักจะพัฒนาโดยกลุ่มนักพัฒนาจากทั่วโลก ที่ทำงานร่วมกันในรูปแบบของชุมชนออนไลน์ การมีส่วนร่วมจากชุมชนทำให้เกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว


  4. การปรับแต่งได้ตามความต้องการ (Customizability)

    เนื่องจากซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สให้การเข้าถึงซอร์สโค้ด ผู้ใช้จึงสามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตนเองได้ ซึ่งเป็นข้อดีที่ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถใช้งานได้หลากหลาย


  5. ความโปร่งใส (Transparency)

    เนื่องจากซอร์สโค้ดเปิดเผยให้ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมีความโปร่งใสในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าซอฟต์แวร์ไม่มีการซ่อนโค้ดที่เป็นอันตรายหรือส่งข้อมูลออกไปโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ


  6. ไม่มีค่าใช้จ่าย (Cost-Free)

    แม้ว่าจะมีซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สบางตัวที่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนหรือบริการเพิ่มเติม แต่ตัวซอฟต์แวร์พื้นฐานนั้นมักจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สได้รับความนิยม


  7. การสนับสนุนจากผู้ใช้ (User Support)

    ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมักจะมีชุมชนขนาดใหญ่ที่พร้อมให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของฟอรัม บทความ หรือการให้คำปรึกษาโดยตรงจากผู้พัฒนาในชุมชน การมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ช่วยสร้างฐานความรู้ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้คนอื่นๆ

คุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กร ที่ต้องการการควบคุม การปรับแต่ง และการพัฒนาที่ต่อเนื่องในซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน


ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สต่างจากซอฟต์แวร์ประเภทอื่นอย่างไร

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (Open Source Software) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากซอฟต์แวร์ประเภทอื่น โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท (Proprietary Software) ต่อไปนี้คือความแตกต่างหลักๆ ระหว่างซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สกับซอฟต์แวร์ประเภทอื่น


  1. การเข้าถึงซอร์สโค้ด

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: ผู้ใช้สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดของซอฟต์แวร์ได้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถตรวจสอบ ปรับแต่ง และแจกจ่ายซอฟต์แวร์ได้ตามต้องการ

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: ซอร์สโค้ดจะถูกเก็บเป็นความลับ ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงหรือปรับแต่งซอร์สโค้ดได้ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น


  1. การแจกจ่าย

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: สามารถแจกจ่ายได้ฟรีโดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้ใช้ยังสามารถแจกจ่ายเวอร์ชันที่ตนเองปรับแต่งได้อีกด้วย

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: การแจกจ่ายซอฟต์แวร์มักจะถูกควบคุมโดยลิขสิทธิ์และสัญญาอนุญาตการใช้งาน (License Agreement) การกระจายซอฟต์แวร์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์


  1. การปรับแต่ง

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ได้ตามความต้องการ เนื่องจากมีการเข้าถึงซอร์สโค้ด ทำให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นในการแก้ไขซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงานเฉพาะ

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: ผู้ใช้ไม่สามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์เองได้ การแก้ไขซอฟต์แวร์ต้องทำผ่านผู้พัฒนาเท่านั้น และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


  1. ค่าใช้จ่าย

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: โดยทั่วไปแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ซอฟต์แวร์นี้มักจะเปิดให้ใช้งานได้ฟรี อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับบริการสนับสนุนหรือการพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มเติม

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: มักจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อหรือใช้งาน ซึ่งอาจมาในรูปแบบของการซื้อขาดหรือการจ่ายค่าบริการรายเดือนหรือรายปี


  1. การสนับสนุน

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: การสนับสนุนมักจะมาจากชุมชนออนไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้และผู้พัฒนาที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาและปรับปรุงซอฟต์แวร์ แต่บริการสนับสนุนอย่างเป็นทางการอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: การสนับสนุนมักมาจากบริษัทผู้พัฒนาเอง ซึ่งอาจรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายของซอฟต์แวร์หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามระดับของการสนับสนุนที่เลือก


  1. สิทธิ์ในการใช้งาน

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: การใช้ซอฟต์แวร์นี้ถูกกำหนดโดยสัญญาอนุญาตแบบเปิด (Open Source License) ที่มักจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถคัดลอก แก้ไข และแจกจ่ายซอฟต์แวร์ได้

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: การใช้งานถูกจำกัดตามสัญญาอนุญาตเฉพาะ (Proprietary License) ซึ่งกำหนดขอบเขตการใช้งาน เช่น การห้ามแก้ไข การแจกจ่าย หรือแม้แต่การติดตั้งซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์หลายเครื่อง


  1. ความโปร่งใส

  • ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส: เนื่องจากซอร์สโค้ดเปิดเผยให้สาธารณะสามารถตรวจสอบได้ ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สจึงมีความโปร่งใสสูง ผู้ใช้สามารถมั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของซอฟต์แวร์ได้

  • ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัท: เนื่องจากซอร์สโค้ดถูกปิดเป็นความลับ ผู้ใช้ต้องเชื่อมั่นในบริษัทผู้พัฒนาเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการควบคุมและความยืดหยุ่นในการใช้งาน ในขณะที่ซอฟต์แวร์ทรัพย์สินของบริษัทมักจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบริการสนับสนุนที่ครบวงจรและการใช้งานที่ง่ายโดยไม่ต้องมีการปรับแต่ง


สรุป

ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเป็นเครื่องมือที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดและพัฒนาต่อยอดได้อย่างอิสระ มันมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในด้านของความเปิดกว้างและการเข้าถึงฟรี ในปัจจุบัน ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส กลายเป็นที่นิยมในวงการไอทีเพราะช่วยส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและทำให้การใช้งานซอฟต์แวร์เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับทุกคน

stay in the loop

Subscribe for our latest update.