IoT และ IoE คือ อะไร​

IOE (Internet of Everything) และ IoT (Internet of Things) เป็นคำใช้ที่มักถูกใช้เพื่ออธิบายแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโลกของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตกันเอง ความหมายของทั้งสองคำนี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่มีบางความแตกต่างในการใช้งานและบริบทที่นำมาใช้งาน ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทั้งสองคำนี้

IoE และ IoT เป็นแนวคิดที่สร้างชุดของเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทางไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต โดย IoT ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์และข้อมูล ในขณะที่ IoE เพิ่มมิติในกระบวนการเชื่อมต่อโดยรวมทั้งมนุษย์และกระบวนการต่างๆ ซึ่งสร้างโอกาสและความเชื่อมั่นในการตัดสินใจที่มีข้อมูลเป็นพื้นฐานอย่างมากขึ้น

Internet of Things (IoT)​

IoT หมายถึงเครือข่ายของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับกันผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อมูลระหว่างกัน อุปกรณ์ที่เข้าร่วมใน IoT สามารถเป็นทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้านเช่น หลอดไฟที่ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน ไปจนถึงอุปกรณ์ในอุตสาหกรรม เช่น เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบสภาพแวดล้อม และแม้กระทั่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยในการวินิจฉัยและตรวจสอบสุขภาพ โดยผ่านการรวมรวมข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านี้ ทางการดำเนินงานและการจัดการสามารถเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น

Internet of Everything (IoE)​

IoE คือการขยายแนวคิดของ IoT ออกไปยังมิติที่กว้างขึ้น ไม่เพียงแค่การเชื่อมต่ออุปกรณ์และข้อมูล แต่ยังรวมความเชื่อมโยงระหว่างบุคคล กระบวนการ และข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดระบบที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกันในโลกดิจิทัลนี้ถูกเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน นอกจากอุปกรณ์ นักวิจัยก็เห็นแนวโน้มที่แท้จริงว่า IoE จะเป็นแนวคิดที่ปฏิสัมพันธ์กับการเรียนรู้ของเครื่องจักร การตัดสินใจของมนุษย์ และความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิต การใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้รับจากทั้งแหล่งที่มาของ IoE ทำให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตามสภาพแวดล้อม

IoT มีอะไรบ้าง ค้นพบโลกของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน : โลกของ Internet of Things (IoT)​

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว เราได้เข้าสู่แวดวงของ "Internet of Things" หรือ IoT ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้ผลักดันการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ต เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและเปิดโอกาสใหม่ในด้านต่างๆ มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกของ IoT และอุปกรณ์ที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา:

1. สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต: นับเป็นเรื่องปกติที่มีทุกคนมีอุปกรณ์เหล่านี้ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นตัวอย่างสื่อสารที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่นอกจากการโทรและการเรียกดูเนื้อหา เครื่องมือเหล่านี้ยังมีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบ้าน เช่น หลอดไฟสมาร์ท ระบบความปลอดภัย และระบบความเย็นอัจฉริยะ

2. อุปกรณ์ในบ้าน: หลายๆ อุปกรณ์ในบ้านก็ได้รับการพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ เช่น หลอดไฟสมาร์ทที่สามารถปรับแสงได้ผ่านแอปพลิเคชัน โทรทัศน์ที่สามารถเข้าถึงเนื้อหาผ่านการสตรีมมิ่ง และเครื่องซักผ้าที่สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์เครื่องมือต่อพ่วง

3. เมืองอัจฉริยะ: คอนเซปต์ของเมืองอัจฉริยะกำลังก้าวสู่ความเป็นจริง เมืองที่ใช้เทคโนโลยี IoT สามารถเก็บข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น การจราจรและการใช้พลังงาน และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการจัดการเมืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายให้แก่ประชาชน

4. อุปกรณ์แม่แบบ: อุปกรณ์แบบพกพาที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย เครื่องนับก้าวเป็นต้น เข้าร่วมการติดตามและแบ่งปันข้อมูลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน

5. อุตสาหกรรมและการผลิต: ในอุตสาหกรรม การใช้เซ็นเซอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อช่วยในการตรวจสอบสภาพแวดล้อมและข้อมูลการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในกระบวนการ

6. สุขภาพและการแพทย์: อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตช่วยในการตรวจวินิจฉัยอาการและส่งข้อมูลไปยังแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เพิ่มความแม่นยำและความเข้าถึงในการดูแลสุขภาพ

7. การเกษตรและการจัดการทรัพยากร: โครงการเกษตรและการจัดการทรัพยากรสามารถใช้เซ็นเซอร์และข้อมูลจาก IoT ในการตรวจสอบสภาพแวดล้อม เพื่อปรับปรุงการเพาะปลูกและการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม

การเชื่อมต่อโลกของ IoT ได้เปลี่ยนวิธีการที่เราใช้ชีวิต การทำงาน และการติดต่อสื่อสาร สิ่งเหล่านี้เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของการเชื่อมต่อในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว