GPS ,GPS ติดตามรถ ,GPS Tracking

การพัฒนาของ GPS ติดตามรถเริ่มจากการใช้งานทางการทหารในปี 1970s จนกระทั่งเปิดให้ใช้ในเชิงพาณิชย์ในปี 1990s ในระยะแรก GPS Tracking ใช้เพียงเพื่อระบุตำแหน่ง ต่อมาเทคโนโลยีพัฒนาเพิ่มความแม่นยำและความสามารถ เช่น การติดตามความเร็ว เส้นทาง และการแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ ปัจจุบัน GPS Tracking มีบทบาทสำคัญในด้านการจัดการยานพาหนะ ธุรกิจขนส่ง และการเพิ่มความปลอดภัย โดยมีการพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันมือถือและระบบคลาวด์

องค์ประกอบของระบบติดตามรถ GPS

ระบบติดตามรถ GPS ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้

1. อุปกรณ์ติดตาม GPS (GPS Tracker)

• เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ในรถยนต์หรือยานพาหนะที่ต้องการติดตาม

• ทำหน้าที่รับสัญญาณจากดาวเทียม GPS และคำนวณตำแหน่งของรถ

• บางรุ่นมีเสาอากาศสำหรับรับสัญญาณ GSM/GPRS เพื่อส่งข้อมูลตำแหน่งไปยังเซิร์ฟเวอร์

• คุณสมบัติเพิ่มเติมของ GPS Tracker อาจรวมถึง

  • เซ็นเซอร์วัดความเร็ว

  • เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ

  • ปุ่ม SOS

  • กล้อง

2. เซิร์ฟเวอร์

• เป็นคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลตำแหน่งจาก GPS Tracker

• ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ผ่านเว็บหรือแอปพลิเคชันมือถือเพื่อดูตำแหน่งของรถ

• เซิร์ฟเวอร์ยังสามารถใช้จัดเก็บข้อมูลการเดินทาง ประวัติการแจ้งเตือน และรายงานอื่นๆ

3. ซอฟต์แวร์

• เป็นโปรแกรมที่ใช้แสดงตำแหน่งของรถบนแผนที่

• ซอฟต์แวร์ GPS Tracking มักมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น

  • การติดตามแบบเรียลไทม์

  • การติดตามประวัติ

  • การตั้งค่า Geofence

  • การแจ้งเตือน

  • รายงาน

4. เครือข่ายมือถือ

• ใช้สำหรับส่งข้อมูลตำแหน่งจาก GPS Tracker ไปยังเซิร์ฟเวอร์

• GPS Tracker บางรุ่นรองรับเครือข่ายมือถือหลายเครือข่าย

• ผู้ใช้ต้องสมัครสมาชิกแผนบริการข้อมูลมือถือสำหรับ GPS Tracker

GPS ติดตามรถแต่ละยี่ห้อแตกต่างอย่างไร

1. การติดตามแบบเรียลไทม์: GPS ติดตามรถบางรุ่นมีการติดตามแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้คุณเห็นตำแหน่งของรถของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา รุ่นอื่นๆ ให้อัปเดตตำแหน่งเป็นระยะๆ

2. ประวัติการเดินทาง: GPS ติดตามรถบางรุ่นสามารถบันทึกประวัติการเดินทางของคุณได้ ซึ่งช่วยให้คุณดูว่ารถของคุณไปที่ไหนและเมื่อไหร่

3. การแจ้งเตือน: GPS ติดตามรถบางรุ่นสามารถส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น เช่น ความเร็วเกินกำหนด การออกจากเขตที่กำหนด หรือการหยุดทำงานของเครื่องยนต์

4. การจัดการกองยานพาหนะ: GPS ติดตามรถบางรุ่นมีซอฟต์แวร์สำหรับจัดการกองยานพาหนะ ซึ่งช่วยให้คุณจัดการกองยานพาหนะของคุณจากที่เดียว

5. การรวมเข้ากับซอฟต์แวร์อื่น ๆ: GPS ติดตามรถบางรุ่นสามารถรวมเข้ากับซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่คุณใช้ เช่น ระบบจัดการการขนส่ง (TMS) หรือซอฟต์แวร์การบัญชี

6. ขนาดและน้ำหนัก: GPS ติดตามรถมีขนาดและน้ำหนักต่างกัน สิ่งสำคัญคือต้องเลือก GPS Tracker ที่มีขนาดเหมาะสมกับรถของคุณ

7. กันน้ำและกันฝุ่น: GPS ติดตามรถบางรุ่นกันน้ำและกันฝุ่น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศที่รุนแรง

8. แบตเตอรี่: GPS ติดตามรถบางรุ่นใช้แบตเตอรี่ ในขณะที่บางรุ่นใช้พลังงานจากไฟรถยนต์ สิ่งสำคัญคือต้องเลือก GPS Tracker ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

9. ราคาของ GPS ติดตามรถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและฮาร์ดแวร์ สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติก่อนตัดสินใจซื้อ

สรุปคือ

การเลือก GPS ติดตามรถให้เหมาะสมต้องคำนึงถึงความต้องการใช้งาน เช่น การติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์เส้นทาง หรือการแจ้งเตือนเหตุการณ์ ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงและมีความเสถียร นอกจากนี้ ควรพิจารณาการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน รวมถึงบริการหลังการขายและการสนับสนุนจากผู้ผลิต เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า